มอเตอร์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวัน เพราะว่ารอบตัวเราส่วนใหญ่ ล้วนมีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบทั้งนั้น อย่างเช่นพัดลมตั้งโต๊ะ รถของเล่นบ้าง หรือจะนำมาใช้กับการทำงานของเราก็ได้ โดยใช้เป็นเครื่องทุ่นแรง เช่น ในการทำเกษตร การทำเครื่องรดน้ำอัตโนมัติ ก็ล้วนใช้ มอเตอร์ ราคา เป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น
เนื่องจากตอนนี้มีมอเตอร์หลายชนิดให้เลือก ทั้งมอเตอร์ธรรมดาและมอเตอร์เกียร์ ซึ่งลักษณะในการใช้งานจะแตกต่างกัน นั่นหมายความว่าก่อนใช้งาน เราต้องทำความรู้จักเกี่ยวกับมอเตอร์กันก่อน มาดูว่าสิ่งที่เราควรรู้นั้นมีอะไรบ้าง
หลักการเลือกซื้อมอเตอร์ไฟฟ้า
1.ประเภทของมอเตอร์
ประเภทของมอเตอร์แต่ละแบบ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานไม่เหมือนกัน บางอย่างไม่สามารถใช้แทนกันได้ โดยรายละเอียดของประเภทมอเตอร์ สามารถจำแนกออกไปเป็น 5 รูปแบบดังต่อไปนี้ ได้แก่
1.1 มอเตอร์ดีซี แบ่งออกเป็นทั้งชนิดที่มีแปรงถ่านและไม่มีแปรงถ่าน โดยทั้งสองอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียอต่างกัน ใช้งานไม่เหมือนกัน
- มอเตอร์แบบสั่น เป็นมอเตอร์ที่เอาไว้สำหรับทำระบบป้องกันความปลอดภัย หรือในโทรศัพท์
- สเตปปิ้งมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ที่มีความแม่นยำสูง เอาไว้สำหรับใช้กับระบบที่ต้องการความแม่นยำ เช่นการพิมพ์งาน เป็นต้น
- เซอร์โวมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่เอาไว้สำหรับควบคุมการทำงานของระบบ ให้เป็นแบบอัตโนมัติ แต่ไม่ได้มีความแม่นยำสูงเหมือนกับสเต็ปปิ้งมอเตอร์
1.2 เอซีมอเตอร์ หรือมอเตอร์แบบเหนี่ยวนำ มีอยู่สามชนิดก็คือ
- ซิงโครนัสมอเตอร์
- อะซิงโครนัสมอเตอร์
- มอเตอร์อุตสาหกรรม
2.พิกัดของมอเตอร์
พิกัดของมอเตอร์ที่ใช้ จะต้องเหมาะสมกับโหลดที่ต้องการเอาไปขับ ไม่ควรมาหรือว่าน้อยเกินไป ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบกับ มอเตอร์ ราคา ของเราทันที อาจจะทำให้เสียหายได้ง่าย หรือไม่ก็เป็นการใช้งานที่เปลืองงบโดยเปล่าประโยชน์ ก่อนซื้อเราจะต้องทราบพิกัดของโหลดก่อน ก่อนนำไปใช้เลือกตัวมอเตอร์
3.แรงดันไฟฟ้า
แรงดันไฟฟ้าในบ้านเรา แบ่งเป็นสองแบบ ก็คือแบบสามเฟส กับแบบหนึ่งเฟส หากคุณต้องการซื้อมอเตอร์มาเพื่อใช้งานส่วนตัวในบ้าน ก็ต้องเลือกเป็นแบบเฟสเดียว ส่วนใหญ่แบบสามเฟส จะเน้นใช้งานกับมอเตอร์ขนาดใหญ่ในโรงงานมากกว่า
4.ความเร็วของมอเตอร์
มอเตอร์แต่ละชนิดมีพิกัดความเร็วไม่เท่ากัน วิธีการตัดสินใจว่าจะเลือกความเร็วรอบของมอเตอร์เท่าไหร่ ต้องดูก่อนว่าเราจะเอามอเตอร์นั้นไม่ใช้งานกับอะไร หากเป็นมอเตอร์ที่เอาไว้สำหรับลำเลียงสินค้าหรือของ ก็ต้องเป็นมอเตอร์ที่มีความเร็วไม่สูงมาก แต่ว่ามีแรงบิดที่สูง จึงจะทำให้ระบบทำงานได้ หากความเร็วสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับการใช้งานทันที
5.คุณภาพของมอเตอร์
เราสามารถเลือกคุณภาพของมอเตอร์ได้จากราคาของมอเตอร์ หรือจะดูจากยี่ห้อก็ได้ มอเตอร์ที่เป็นที่นิยมและมีราคาสูง แน่นอนว่าคุณภาพก็ย่อมสูงกว่ามอเตอร์ทั่วไป อายุการใช้งานยาวนาน ไม่เสี่ยงพังง่ายด้วย ในระยะยาวแล้วแบบที่แพงกว่า ย่อมใช้งานได้คุ้มค่ากว่าแน่
จะเห็นว่าการเลือกซื้อ มอเตอร์ ราคา เราต้องดูรายละเอียดหลายอย่างเช่นกัน กว่าจะได้มอเตอร์มาใช้งานสักตัว แต่หากคุณไม่เข้าใจวิธีการเลือกจริงๆ รวมถึงวิธีการติดตั้งที่ถูกต้อง แนะนำว่าการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือจ้างช่าง จะช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ดีที่สุด